Hard Skills และ Soft Skills ในการทำงาน ต่างกันอย่างไร?
การพัฒนาตัวเองให้ดีขึ้น หรือ Personal Development นั้นยังคงเป็นสิ่งที่จำเป็นในการสร้างความก้าวหน้าให้กับชีวิตมาทุกยุคทุกสมัย และในแต่ละยุคนั้นก็ต่างมีความต้องการในความสามารถต่าง ๆ ของผู้ที่พัฒนาตัวเองต่างกันออกไป ซึ่งในยุคสมัยก่อนนั้นยังไม่ได้มีการให้คำนิยามหรือคำจำกัดความถึงประเภทของความสามารถในแบบต่าง ๆ อย่างชัดเจน จนกระทั่งในช่วงเวลาเร็ว ๆ นี้ได้มีศัพท์ 2 คำที่กำลังเป็นที่นิยมอย่างมากในปัจจุบัน นั่นคือ Hard Skills และ Soft Skills
สรุปเร็ว: Hard Skills vs. Soft Skills (ดูใน 60 วินาที)
เรื่อง | Hard Skills | Soft Skills |
---|---|---|
ความหมาย | ความรู้/ทักษะเชิงเทคนิคที่สอนได้ วัดผลได้ | พฤติกรรม/ทักษะคน ที่ทำให้งานไหลลื่น |
ตัวอย่าง | Excel/SQL, Coding, Data Analysis, Design Tool, ภาษา | การสื่อสาร, การทำงานเป็นทีม, การคิดเชิงวิพากษ์, การปรับตัว |
วัดผล | ข้อสอบ, ใบรับรอง, งานตัวอย่าง/ผลงาน | การสังเกตพฤติกรรม, 360°, eNPS/ฟีดแบ็ก, เป้าหมายทีม |
ใช้เมื่อ | งานซับซ้อนเชิงเทคนิค/มาตรฐานชัด | งานข้ามทีม/เปลี่ยนเร็ว/ต้องโน้มน้าว |
พัฒนา | คอร์ส/เวิร์กช็อป + ฝึกทำโปรเจ็กต์ | โค้ชชิ่ง, แบบฝึกหัด SBI/SSC, การสะท้อนผลลัพธ์รายสัปดาห์ |
เคล็ดลับ: ทีมที่ สมดุล จะตั้ง OKR ที่วัดทั้งผลลัพธ์เชิงเทคนิค (เช่น คุณภาพ/เวลา) และพฤติกรรมที่ทำให้สำเร็จ (เช่น 1:1 คุณภาพดี การยอมรับตามค่านิยม)
แผนพัฒนา 30 วัน (ทำได้จริง)
สัปดาห์ 1: ระบุ 1 hard + 1 soft ที่สำคัญต่อบทบาท (เช่น Excel Advanced + การให้ฟีดแบ็ก) และกำหนดผลลัพธ์ที่วัดได้
สัปดาห์ 2: เรียน/ฝึก 30–60 นาทีต่อวัน + ใช้ในงานจริง 1 เคส
สัปดาห์ 3: ขอฟีดแบ็กแบบ SBI จากหัวหน้าหรือเพื่อนร่วมงาน 2–3 ครั้ง + บันทึกสิ่งที่จะ Continue
สัปดาห์ 4: ส่งงานตัวอย่าง/Checklist ผลลัพธ์ + ตั้ง OKR ไตรมาสถัดไป (ต่อยอดหรือเปลี่ยนหัวข้อ)
ตัวชี้วัด: คุณภาพงาน/เวลาส่งมอบดีขึ้น, จำนวนฟีดแบ็กที่ได้รับ, ความมั่นใจในการทำงานข้ามทีม
Hard Skills และ Soft Skills คืออะไร? ต่างกันอย่างไร?
สองคำนี้อาจจะฟังดูแล้วงง ๆ หน่อย อีกทั้งยังไม่มีคำแปลไทยอย่างตรงตัว แต่สามารถสรุปสั้น ๆ ได้ดังนี้
Hard Skills คือ ความรู้ความสามารถในเชิงเทคนิคต่าง ๆ ทั้งในแง่ของความสามารถในเชิงวิชาการ ทักษะการทำงานเชิงฝีมือต่าง ๆ หรือแม้กระทั่งความสามารถในการใช้ภาษา การคิดคำนวณ ก็จัดอยู่ในความสามารถประเภทนี้ด้วย เป็นประเภทความสามารถที่ทำให้คุณสามารถนำไปใช้ในการทำงานได้
Soft Skills คือ ทักษะที่ถึงแม้จะไม่สามารถมองเห็นได้อย่างชัดเจนเหมือนกับ Hard Skills แต่ก็เป็นความสามารถที่จำเป็นอย่างยิ่งในการทำงานในยุคปัจจุบัน ที่ช่วยให้เกิดการทำงานที่มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น สามารถทำงานทุกอย่างลุล่วงด้วยดี และสามารถใช้ชีวิตได้อย่างมีความสุขยิ่งขึ้น อย่างเช่น ความสามารถในการทำงานร่วมกับผู้อื่น ความสามารถในการพูดคุยทำงานกันเป็นทีม เป็นต้น
ตัวอย่างของ Hard Skills
ถ้าจะให้ยกตัวอย่าง Hard Skills นั้น อาจจะไม่ยาก แต่ค่อนข้างจะมีปริมาณที่มาก เพราะว่าในแต่ละสายอาชีพต่างก็ต้องการความสามารถ เก่งกาจในเชิงเทคนิคที่แตกต่างกันออกไป โดยในส่วนนี้ทางเราจะของยกตัวอย่างมาอย่างคร่าว ๆ ให้คุณพอจะเข้าใจ เห็นภาพ ซึ่งทางเราอาจไม่ได้อธิบายรายละเอียดเพิ่มเติม เพราะความสามารถในแต่ละข้อนั้นต่างมีความหมายตรงตัวอยู่แล้ว ซึ่งความสามารถเหล่านั้นมีดังนี้
- การคิดคำนวณ (Calculation)
- การโปรแกรมมิ่ง (Programing)
- การวาดรูป (Drawing)
- การใช้งานระบบคลาวด์ (Cloud Computing)
- การทำบัญชี (Accounting)
- การทำอาหาร (Cooking)
- การวางแผนเชิงธุรกิจ (Business Planning)
- การต่อสู้ระยะประชิด (Close Quarter Combat)
เป็นต้น
ตัวอย่างของ Soft Skills
ในด้านความสามารถเชิง Soft Skills ที่ฟังดูแล้วจับต้องยาก และมีการดัดแปลงใช้ได้อย่างหลากหลาย ในหลากอาชีพกว่าความสามารถในเชิงเทคนิคนั้น อาจจะมีมากไม่เท่ากับความสามารถแบบ Hard Skills ที่ผันแปรไปตามสายงานต่าง ๆ แต่ความสามารถในแต่ละอย่างต่างมีรายละเอียดที่น่าสนใจ และผู้อ่านทุกคนควรใช้เวลาในการทำความเข้าใจ เรียนรู้ ซึมซับ และนำเอาไปใช้ในการทำงานจริง ๆ ซึ่งทางเราจะยกตัวอย่างของ Soft Skills ดังต่อไปนี้
ความคิดสร้างสรรค์ (Creativity)
คุณไม่จำเป็นต้องทำงานสาย Design หรือเป็นจิตรกร ความสามารถนี้ก็มีความจำเป็น เพราะจะช่วยให้คุณสามารถเชื่อมโยงความคิด ประสบการณ์ และความสามารถในเชิง Hard Skills นำไปสู่การคิดค้นวิธีการทำงานใหม่ ๆ ได้อย่างน่าเหลือเชื่อ
การทำงานร่วมกับผู้อื่น (Collaboration)
หลายงานอาจทำคนเดียวได้ แต่ก็ต้องประสานงานกับผู้อื่นอยู่ดี ไม่ว่าจะเป็นหัวหน้างาน นายจ้าง หรือลูกค้า ดังนั้น คุณจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องมีความสามารถในการทำงานร่วมกับผู้อื่น เพื่อให้การสอดประสานและรับส่งงานเป็นไปอย่างคล่องตัวและมีประสิทธิภาพ
การปรับตัวและฟื้นตัว (Resilience)
ชื่อความสามารถนี้อาจจะอ่านยาก เข้าใจยากสำหรับคนไทย แต่ยกตัวอย่างให้ง่ายกว่าเดิม คุณลองนึกถึงตุ๊กตาล้มลุก ที่ล้มแค่ไหนก็ลุกขึ้นมาได้ ทักษะนี้สำคัญเป็นอย่างมากโดยเฉพาะในสถานการณ์ที่มีการเปลี่ยนแปลงมาก อย่างเช่น สถานการณ์โควิด-19 ที่เข้ามาเปลี่ยนโลก ทั้งการใช้ชีวิตและการทำงาน ซึ่งทักษะนี้ช่วยให้เราปรับตัวและฟื้นตัวผ่านสถานการณ์นี้มาได้ ถ้าคุณอยากเรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับทักษะ Resilience ในองค์กร คุณสามารถอ่าน หนังสือเล่มนี้ ของเราเพื่อนำไปปรับใช้ในชีวิตและพัฒนาพนักงานในองค์กรในด้านนี้ต่อไป
ต้วอย่างทั้งสามทักษะนี้เป็นความสามารถเชิง Soft Skills เพียงส่วนหนึ่งจากที่มีมากมายที่กำลังมาแรงและจำเป็นในยุคป้จจุบัน และถ้าคุณสนใจว่า Soft Skills อะไรบ้างที่ส่งผลต่อประสิทธิภาพการทำงาน คุณสามารถอ่านงานศึกษาข้อมูลของเราเพิ่มเติมในหัวข้อ เพิ่มประสิทธิภาพการทำงานด้วย Soft Skills ได้
FAQs
- ถาม: ควรโฟกัส Hard หรือ Soft ก่อน?
ตอบ: เลือกจาก “สิ่งที่ขัดงานมากที่สุด” ใน 90 วันข้างหน้า แล้วจับคู่ 1 Hard + 1 Soft เสมอ - ถาม: วัด Soft Skills ยังไง?
ตอบ: ใช้ฟีดแบ็ก SBI, 360° แบบสั้น, และตัวชี้วัดทีม (เช่น 1:1 คุณภาพ, การยอมรับตามค่านิยม) - ถาม: พัฒนาทีมแบบเร็วที่สุด?
ตอบ: ฝังนิสัยรายสัปดาห์: Check-in 3 นาที, 1:1 มีวาระ, ยกย่องพฤติกรรมที่อยากให้ทำซ้ำ - ถาม: ใบเซอร์จำเป็นไหม?
ตอบ: ดีต่อการยืนยัน Hard Skills แต่ผลงานจริงและพฤติกรรมหน้างานสำคัญกว่า
เป็นหัวหน้าต้องสร้าง Motivation ให้ลูกทีมพัฒนาตัวเอง
ในการทำงานนั้น สมาชิกในทีมล้วนแต่จำเป็นที่จะต้องมีการพัฒนาความสามารถในทั้งสองแง่มุมนี้อย่างครบถ้วน สม่ำเสมอ และต้องตรงความต้องการของงานและองค์กร ซึ่งสิ่งที่หัวหน้าไม่ว่าจะระดับผู้จัดการ หรือผู้บริหารสามารถทำได้นั้น นอกจากจะเป็นการสรรหาทุนและความร่วมมือจากองค์กรเพื่อพัฒนาพนักงานภายในการดูแลของตนแล้ว อีกสิ่งที่สำคัญไม่ต่างกันคือ การสร้างแรงผลักดัน หรือ Motivation ให้กับพนักงาน โดยในการสร้าง Motivation อย่างมีประสิทธิภาพ จะช่วยให้พนักงานนั้นมีทั้งความสามารถที่เพิ่มขึ้น มีพัฒนาการต่อเนื่อง และยังมีสุขภาวะ หรือ Well-being ที่ดีอีกด้วย ซึ่งจะเป็นการสร้างผลเชิงบวกในระยะยาว (หรือมี Sustainability) โดยคุณสามารถศึกษาถึงศาสตร์การสร้าง Motivation อย่างถูกต้องได้ เพียงแค่กรอกแบบฟอร์มด้านล่างเพื่อดาวน์โหลดหนังสือฟรี!